“กิรเดช ”พร้อมทัพนักกอล์ฟเอเชียหวังโชว์ฟอร์มเก่งในศึก ดีพี เวิลด์ ทัวร์ ลุ้นตั๋วลุยพีจีเอทัวร์
ในอดีตที่ผ่านมา โปรกอล์ฟชื่อดังของเอเชียอย่าง ธงชัย ใจดี จากประเทศไทย, ชาง เหลียง-เหว่ย จากจีน, อาร์จุน อัตวาล จากอินเดีย และมาร์ดาน มามัต จากสิงคโปร์ ล้วนเคยสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ในการแข่งขันดีพีเวิลด์ ทัวร์ ที่เป็นรายการโค-แซงชั่น ทั่วภูมิภาคเอเชีย และได้สิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นในทัวร์ชั้นนำของยุโรปที่เมื่อก่อนใช้ชื่อว่า ยูโรเปี้ยน ทัวร์
ขณะที่ในปัจจุบันมีรางวัลเดิมพันที่ดีกว่าเดิม เมื่อมีโควตาตั๋วพีจีเอทัวร์ การ์ด 10 ใบ ให้ช่วงชิงในการแข่งขันดีพี เวิลด์ ทัวร์ ฤดูกาล 2023 โดยนักกอล์ฟที่จบใน 10 อันดับแรกของดีพีเวิลด์ ทัวร์ จะได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในทัวร์อาชีพชายระดับแนวหน้าของโลกอย่างพีจีเอทัวร์ ในฤดูกาล 2024
ด้าน “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ โปรกอล์ฟวัย 33 ปีของไทย ที่เคยคว้าแชมป์ดีพี เวิลด์ ทัวร์ 4 รายการ หวังโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งในฤดูกาลนี้และลุ้นคว้าสิทธิ์กลับไปเล่นในพีจีเอ ทัวร์ ซึ่งเขาลงเล่นในพีจีเอทัวร์ 5 ปี ก่อนเสียสิทธิ์ในฤดูกาลที่ผ่านมา เจ้าตัวเผยว่า “เป็นเรื่องน่ายินดีมากที่มีโควตาพีจีเอทัวร์ การ์ด 10 ใบให้ได้ลุ้นในการแข่งขันดีพี เวิลด์ ทัวร์ ถือเป็นการสร้างโอกาสให้กับนักกอล์ฟรุ่นใหม่ที่จะได้เข้าไปเล่นในทัวร์อาชีพระดับสูงขึ้น สำหรับผมเองจะพยายามทำผลงานให้ดีในการแข่งขันดีพี เวิลด์ ทัวร์ โดยหวังว่าจะสามารถคว้าแชมป์สัก 2-3 รายการ และกลับเข้าไปเล่นในพีจีเอทัวร์ อีกครั้ง”
กิรเดช ซึ่งเคยขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 29 ของโลก มีแผนพักอยู่ที่บ้านในกรุงเทพฯ ระหว่างที่พยายามเรียกฟอร์มเก่งคืนมา หลังจากที่มีช่วงเวลา 5 ปีที่ยากลำบากในสหรัฐฯ กับการปรับตัวที่ต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัว โดยกล่าวว่า “การได้กลับมาอยู่บ้านเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก ผมมีครอบครัวอยู่ด้วยตลอดเวลา ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของพวกเราไปแล้ว เราใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ไปรับประทานอาหาร ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน และอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน และผมยังมีเวลาให้กับรถของตัวเองมากขึ้นด้วย”
ทั้งนี้ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกอล์ฟดีพี เวิลด์ ทัวร์ รายการไทยแลนด์ คลาสสิค ที่สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ ระหว่างวันที่ 16 – 19 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งกิรเดช คาดหวังว่าจะกลับสู่เส้นทางคว้าแชมป์อีกครั้งเมื่อได้ลงเล่นในประเทศบ้านเกิด
“ผมรอคอยที่จะได้ลงเล่นในประเทศไทย ซึ่งจะได้รับกำลังใจอย่างล้นหลามจากแฟนกีฬาก้านเหล็กชาวไทยและสมาชิกในครอบครัวของผม” กิรเดช กล่าว
โดยดีพี เวิลด์ ทัวร์ และพีจีเอ ทัวร์ ได้ผนึกกำลังความร่วมมือต่อยอดการเป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์ของทั้งสองทัวร์ ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2020 สร้างเส้นทางสู่เวทีพีจีเอทัวร์ สำหรับนักกอล์ฟอย่าง วู อาชุน, หลี่ เฮาตง จากจีน, ชูบันการ์ ชาร์มา จากอินเดีย, เกวิน กรีน จากมาเลเซีย, มาซาฮิโร่ คาวามูระ จากญี่ปุ่น และหวัง จองฮุน จากเกาหลีใต้ ที่ลงเล่นในดีพีเวิลด์ ทัวร์ เป็นประจำ ได้มีโอกาสสานฝันไปเล่นในอเมริกา และแม้แต่ ไรอัน อัง นักกอล์ฟสมัครเล่นชาวสิงคโปร์ วัย 23 ปี ที่จะลงแข่งขันในรายการสิงคโปร์ คลาสสิค ชิงเงินรางวัล 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ สนามลูนา เนชันแนล กอล์ฟ คลับ ระหว่างวันที่ 9-12 กุมภาพันธ์นี้ ก็อาจมีเป้าหมายไปเล่นทัวร์ใหญ่ระดับโลกในอนาคตเช่นกัน
นอกจากนี้ ดีพี เวิลด์ ทัวร์ และพีจีเอ ทัวร์ ยังร่วมมือกับ เจแปน กอล์ฟ ทัวร์, โคเรียน พีจีเอ ทัวร์, ทัวร์กอล์ฟอาชีพอินเดีย หรือพีจีทีไอ และพีจีเอ ออสเตรเลีย ทำให้นักกอล์ฟในทัวร์ของแต่ละประเทศมีโอกาสได้ลุ้นเข้าไปเล่นในดีพี เวิลด์ ทัวร์ รวมถึงพีจีเอ ทัวร์ หากสามารถโชว์ฟอร์มในระดับท็อปอย่างต่อเนื่อง
ชูบันการ์ ชาร์มา โปรกอล์ฟวัย 26 ปี ดีกรีแชมป์ดีพี เวิลด์ ทัวร์ 2 รายการ และจบอันดับ 29 ในเรซ ทู ดูไบ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา กล่าวว่า “ผมคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักกอล์ฟ การได้ผ่านเข้าไปเล่นในพีจีเอ ทัวร์ เป็นสิ่งนักกอล์ฟส่วนใหญ่ใฝ่ฝันหา เพราะเป็นทัวร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ดังนั้นการเป็นพันธมิตรระหว่างดีพี เวิลด์ ทัวร์ และพีจีเอ ทัวร์ อาจเป็นเกมเชนเจอร์ส หรือจุดเปลี่ยนเกมครั้งใหญ่ในเกมกอล์ฟ”
ชาร์มา ยังคาดหวังว่าจะได้เห็นนักกอล์ฟอินเดียคนอื่นๆ เดินตามรอยเข้าไปเล่นในเวทีดีพี เวิลด์ ทัวร์เพิ่มมากขึ้น หลังจาก มานู กันดัส กลายเป็นนักกอล์ฟจากพีจีทีไอ คนแรกที่ได้รับโอกาสผ่านความร่วมมือครั้งใหม่นี้ โดยระบุว่า
“ความร่วมมือระหว่างดีพี เวิลด์ ทัวร์ และพีจีทีไอ โดยมอบสิทธิ์ให้แชมป์ทำเงินรางวัลสะสม หรือพีจีทีไอ ออร์ เดอร์ ออฟ เมอริต ได้ผ่านเข้าไปเล่นในดีพี เวิลด์ ทัวร์ อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ นอกจากนี้ยังมีโควตาผ่านคลอลิฟายอิ้ง สกูล นั่นหมายความว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เราจะมีนักกอล์ฟอินเดียเข้าผ่านเข้าไปเล่นในดีพี เวิลด์ ทัวร์ เพิ่มมากขึ้น”
ส่วนเกวิน กรีน โปรกอล์ฟจากมาเลเซีย ลุ้นคว้าตั๋วพีจีเอทัวร์ การ์ด ผ่านการแข่งขันในดีพี เวิลด์ ทัวร์ เช่นกัน โดยหวังโชว์ฟอร์มได้ดีใน 3 รายการของเอเชียน สวิง ที่ประเทศสิงคโปร์, ประเทศไทย และประเทศอินเดีย
8 กุมภาพันธ์ 2566 – การแข่งขันกอล์ฟ ดีพี เวิลด์ ทัวร์ ช่วงเอเชียน สวิง เตรียมเปิดฉากที่สิงคโปร์ สัปดาห์นี้ด้วยรายการ “สิงคโปร์ คสาสสิค” ตามด้วยประเทศไทยและอินเดีย ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับนักกอล์ฟในภูมิภาคเอเชียในการไล่ล่าความฝันสร้างประวัติศาสตร์และสร้างตำนานในเวทีระดับโลก (ภาพ: Getty Images)
ในอดีตที่ผ่านมา โปรกอล์ฟชื่อดังของเอเชียอย่าง ธงชัย ใจดี จากประเทศไทย, ชาง เหลียง-เหว่ย จากจีน, อาร์จุน อัตวาล จากอินเดีย และมาร์ดาน มามัต จากสิงคโปร์ ล้วนเคยสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ในการแข่งขันดีพีเวิลด์ ทัวร์ ที่เป็นรายการโค-แซงชั่น ทั่วภูมิภาคเอเชีย และได้สิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นในทัวร์ชั้นนำของยุโรปที่เมื่อก่อนใช้ชื่อว่า ยูโรเปี้ยน ทัวร์
ขณะที่ในปัจจุบันมีรางวัลเดิมพันที่ดีกว่าเดิม เมื่อมีโควตาตั๋วพีจีเอทัวร์ การ์ด 10 ใบ ให้ช่วงชิงในการแข่งขันดีพี เวิลด์ ทัวร์ ฤดูกาล 2023 โดยนักกอล์ฟที่จบใน 10 อันดับแรกของดีพีเวิลด์ ทัวร์ จะได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในทัวร์อาชีพชายระดับแนวหน้าของโลกอย่างพีจีเอทัวร์ ในฤดูกาล 2024
ด้าน “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ โปรกอล์ฟวัย 33 ปีของไทย ที่เคยคว้าแชมป์ดีพี เวิลด์ ทัวร์ 4 รายการ หวังโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งในฤดูกาลนี้และลุ้นคว้าสิทธิ์กลับไปเล่นในพีจีเอ ทัวร์ ซึ่งเขาลงเล่นในพีจีเอทัวร์ 5 ปี ก่อนเสียสิทธิ์ในฤดูกาลที่ผ่านมา เจ้าตัวเผยว่า “เป็นเรื่องน่ายินดีมากที่มีโควตาพีจีเอทัวร์ การ์ด 10 ใบให้ได้ลุ้นในการแข่งขันดีพี เวิลด์ ทัวร์ ถือเป็นการสร้างโอกาสให้กับนักกอล์ฟรุ่นใหม่ที่จะได้เข้าไปเล่นในทัวร์อาชีพระดับสูงขึ้น สำหรับผมเองจะพยายามทำผลงานให้ดีในการแข่งขันดีพี เวิลด์ ทัวร์ โดยหวังว่าจะสามารถคว้าแชมป์สัก 2-3 รายการ และกลับเข้าไปเล่นในพีจีเอทัวร์ อีกครั้ง”
กิรเดช ซึ่งเคยขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 29 ของโลก มีแผนพักอยู่ที่บ้านในกรุงเทพฯ ระหว่างที่พยายามเรียกฟอร์มเก่งคืนมา หลังจากที่มีช่วงเวลา 5 ปีที่ยากลำบากในสหรัฐฯ กับการปรับตัวที่ต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัว โดยกล่าวว่า “การได้กลับมาอยู่บ้านเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก ผมมีครอบครัวอยู่ด้วยตลอดเวลา ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของพวกเราไปแล้ว เราใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ไปรับประทานอาหาร ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน และอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน และผมยังมีเวลาให้กับรถของตัวเองมากขึ้นด้วย”
ทั้งนี้ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกอล์ฟดีพี เวิลด์ ทัวร์ รายการไทยแลนด์ คลาสสิค ที่สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ ระหว่างวันที่ 16 – 19 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งกิรเดช คาดหวังว่าจะกลับสู่เส้นทางคว้าแชมป์อีกครั้งเมื่อได้ลงเล่นในประเทศบ้านเกิด
“ผมรอคอยที่จะได้ลงเล่นในประเทศไทย ซึ่งจะได้รับกำลังใจอย่างล้นหลามจากแฟนกีฬาก้านเหล็กชาวไทยและสมาชิกในครอบครัวของผม” กิรเดช กล่าว
โดยดีพี เวิลด์ ทัวร์ และพีจีเอ ทัวร์ ได้ผนึกกำลังความร่วมมือต่อยอดการเป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์ของทั้งสองทัวร์ ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2020 สร้างเส้นทางสู่เวทีพีจีเอทัวร์ สำหรับนักกอล์ฟอย่าง วู อาชุน, หลี่ เฮาตง จากจีน, ชูบันการ์ ชาร์มา จากอินเดีย, เกวิน กรีน จากมาเลเซีย, มาซาฮิโร่ คาวามูระ จากญี่ปุ่น และหวัง จองฮุน จากเกาหลีใต้ ที่ลงเล่นในดีพีเวิลด์ ทัวร์ เป็นประจำ ได้มีโอกาสสานฝันไปเล่นในอเมริกา และแม้แต่ ไรอัน อัง นักกอล์ฟสมัครเล่นชาวสิงคโปร์ วัย 23 ปี ที่จะลงแข่งขันในรายการสิงคโปร์ คลาสสิค ชิงเงินรางวัล 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ สนามลูนา เนชันแนล กอล์ฟ คลับ ระหว่างวันที่ 9-12 กุมภาพันธ์นี้ ก็อาจมีเป้าหมายไปเล่นทัวร์ใหญ่ระดับโลกในอนาคตเช่นกัน
นอกจากนี้ ดีพี เวิลด์ ทัวร์ และพีจีเอ ทัวร์ ยังร่วมมือกับ เจแปน กอล์ฟ ทัวร์, โคเรียน พีจีเอ ทัวร์, ทัวร์กอล์ฟอาชีพอินเดีย หรือพีจีทีไอ และพีจีเอ ออสเตรเลีย ทำให้นักกอล์ฟในทัวร์ของแต่ละประเทศมีโอกาสได้ลุ้นเข้าไปเล่นในดีพี เวิลด์ ทัวร์ รวมถึงพีจีเอ ทัวร์ หากสามารถโชว์ฟอร์มในระดับท็อปอย่างต่อเนื่อง
ชูบันการ์ ชาร์มา โปรกอล์ฟวัย 26 ปี ดีกรีแชมป์ดีพี เวิลด์ ทัวร์ 2 รายการ และจบอันดับ 29 ในเรซ ทู ดูไบ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา กล่าวว่า “ผมคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักกอล์ฟ การได้ผ่านเข้าไปเล่นในพีจีเอ ทัวร์ เป็นสิ่งนักกอล์ฟส่วนใหญ่ใฝ่ฝันหา เพราะเป็นทัวร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ดังนั้นการเป็นพันธมิตรระหว่างดีพี เวิลด์ ทัวร์ และพีจีเอ ทัวร์ อาจเป็นเกมเชนเจอร์ส หรือจุดเปลี่ยนเกมครั้งใหญ่ในเกมกอล์ฟ”
ชาร์มา ยังคาดหวังว่าจะได้เห็นนักกอล์ฟอินเดียคนอื่นๆ เดินตามรอยเข้าไปเล่นในเวทีดีพี เวิลด์ ทัวร์เพิ่มมากขึ้น หลังจาก มานู กันดัส กลายเป็นนักกอล์ฟจากพีจีทีไอ คนแรกที่ได้รับโอกาสผ่านความร่วมมือครั้งใหม่นี้ โดยระบุว่า
“ความร่วมมือระหว่างดีพี เวิลด์ ทัวร์ และพีจีทีไอ โดยมอบสิทธิ์ให้แชมป์ทำเงินรางวัลสะสม หรือพีจีทีไอ ออร์ เดอร์ ออฟ เมอริต ได้ผ่านเข้าไปเล่นในดีพี เวิลด์ ทัวร์ อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ นอกจากนี้ยังมีโควตาผ่านคลอลิฟายอิ้ง สกูล นั่นหมายความว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เราจะมีนักกอล์ฟอินเดียเข้าผ่านเข้าไปเล่นในดีพี เวิลด์ ทัวร์ เพิ่มมากขึ้น”
ส่วนเกวิน กรีน โปรกอล์ฟจากมาเลเซีย ลุ้นคว้าตั๋วพีจีเอทัวร์ การ์ด ผ่านการแข่งขันในดีพี เวิลด์ ทัวร์ เช่นกัน โดยหวังโชว์ฟอร์มได้ดีใน 3 รายการของเอเชียน สวิง ที่ประเทศสิงคโปร์, ประเทศไทย และประเทศอินเดีย
“ถือเป็นแรงกระตุ้นที่สำคัญ และผมก็ลงเล่นเพื่อไขว่าคว้าโอกาสนั้น การได้เล่นอยู่ในเอเชีย เหมือนกลับมาเล่นในบ้าน ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ตอนนี้ผมยังต้องปรับปรุงแก้ไขเกมการเล่นของตัวเอง ที่ยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ แต่ผมก็ซ้อมหนัก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันใน 3 รายการถัดไป และสร้างโอกาสให้กับตัวเอง” โปรกอล์ฟจากมาเลเซียกล่าว
ขณะที่ หลี่ เฮาตง และวู อาชุน หวังใช้เวทีดีพี เวิลด์ ทัวร์ เป็นบันไดสู่พีจีเอทัวร์เช่นกัน หลังจาก มาร์ตี้ ตู และคาร์ล หยวน สองเพื่อนร่วมชาติชาวจีน ได้สิทธิ์ลงเล่นในพีจีเอทัวร์แบบเต็มตัวผ่านเวทีคอร์น เฟอร์รี ทัวร์ ในสหรัฐอเมริกา โดยในปี 2018 หลี่ เฮาตง จบผลงานในอันดับ 7 ของเรซ ทู ดูไบ และคว้าแชมป์ดีพี เวิลด์ ทัวร์ มาแล้ว 3 รายการ
ทางด้าน วู อาชุน เผยถึงเป้าหมายในฤดูกาลนี้ว่า “ในปีนี้ นักกอล์ฟหลายคนตั้งเป้าคว้าสิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นในพีจีเอทัวร์ผ่านเวทีดีพี เวิลด์ ทัวร์ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมมีโอกาสทำได้ ที่ผ่านมาผมทำผลงานได้ดีและฝึกซ้อมมาดีในช่วงพักฤดูกาล”
สำหรับ วู อาชุน วัย 37 ปี คว้าแชมป์ดีพี เวิลด์ ทัวร์ มาแล้ว 4 รายการ และหวังเดินตามรอยรุ่นพี่คว้าแชมป์ที่สิงคโปร์หลังจากก่อนหน้านี้ ชาง เหลียง-เหว่ย และ เหลียง เหวิน-ชอง ต่างได้แชมป์ที่สิงคโปร์ทั้งคู่
ขณะที่ หลี่ เฮาตง และวู อาชุน หวังใช้เวทีดีพี เวิลด์ ทัวร์ เป็นบันไดสู่พีจีเอทัวร์เช่นกัน หลังจาก มาร์ตี้ ตู และคาร์ล หยวน สองเพื่อนร่วมชาติชาวจีน ได้สิทธิ์ลงเล่นในพีจีเอทัวร์แบบเต็มตัวผ่านเวทีคอร์น เฟอร์รี ทัวร์ ในสหรัฐอเมริกา โดยในปี 2018 หลี่ เฮาตง จบผลงานในอันดับ 7 ของเรซ ทู ดูไบ และคว้าแชมป์ดีพี เวิลด์ ทัวร์ มาแล้ว 3 รายการ
ทางด้าน วู อาชุน เผยถึงเป้าหมายในฤดูกาลนี้ว่า “ในปีนี้ นักกอล์ฟหลายคนตั้งเป้าคว้าสิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นในพีจีเอทัวร์ผ่านเวทีดีพี เวิลด์ ทัวร์ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมมีโอกาสทำได้ ที่ผ่านมาผมทำผลงานได้ดีและฝึกซ้อมมาดีในช่วงพักฤดูกาล”
สำหรับ วู อาชุน วัย 37 ปี คว้าแชมป์ดีพี เวิลด์ ทัวร์ มาแล้ว 4 รายการ และหวังเดินตามรอยรุ่นพี่คว้าแชมป์ที่สิงคโปร์หลังจากก่อนหน้านี้ ชาง เหลียง-เหว่ย และ เหลียง เหวิน-ชอง ต่างได้แชมป์ที่สิงคโปร์ทั้งคู่