กรมศุลกากรจับกุมหญิงไทยซุกโคคาอีนเข้าประเทศน้ำหนัก 2,300 กรัม มูลค่ากว่า 6.9 ล้านบาท
กรมศุลกากรจับกุมหญิงไทยซุกซ่อนโคคาอีนภายในสัมภาระ น้ำหนัก 2,300 กรัม มูลค่ากว่า 6,900,000 บาท ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ
วันนี้ (13 กรกฎาคม 2566) นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากรได้ให้ความสำคัญในภารกิจปกป้องสังคม ให้ปราศจากการลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติด
จึงให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกรมศุลกากร เพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษในการป้องกัน สกัดกั้นยาเสพติดให้โทษ และบูรณาการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ ป.ป.ส. บช.ปส. ศรภ. หน่วยงานศุลกากรของไทยในต่างประเทศ ศุลกากรต่างประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สถานทูตต่างๆ องค์การตำรวจสากล (Interpol) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (Drug Enforcement Administration: DEA) เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าว ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือและดำเนินงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 นายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม นางสาวนิตยา เที่ยงตรงภิญโญ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรในสังกัดฯ ร่วมกับชุดปฏิบัติการ AITF (AIRPORT INTERDICTION TASK FORCE) ประกอบด้วย กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ได้ร่วมกันตรวจสอบผู้โดยสารที่มีความเสี่ยงในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเป็นผู้โดยสารของสายการบินกาตาร์ เดินทางมาจากเมืองโดฮา (DOHA) ประเทศกาตาร์ (QATAR) ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบผู้โดยสารที่เป็นหญิงไทยมีความน่าสงสัย จึงขอสแกนกระเป๋าเพื่อดูความผิดปกติและขอตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 2,300 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในถุงผ้าจำนวน 5 ถุง ซึ่งบรรจุอยู่ภายในกระเป๋าเป้สัมภาระติดตัวผู้โดยสาร (Carry on)
โฆษกกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 252 ประกอบกับมาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด ทั้งนี้ กรมศุลกากรจะดำเนินการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลต่อไป
กรมศุลกากรจับกุมหญิงไทยซุกซ่อนโคคาอีนภายในสัมภาระ น้ำหนัก 2,300 กรัม มูลค่ากว่า 6,900,000 บาท ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ
วันนี้ (13 กรกฎาคม 2566) นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากรได้ให้ความสำคัญในภารกิจปกป้องสังคม ให้ปราศจากการลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติด
จึงให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกรมศุลกากร เพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษในการป้องกัน สกัดกั้นยาเสพติดให้โทษ และบูรณาการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ ป.ป.ส. บช.ปส. ศรภ. หน่วยงานศุลกากรของไทยในต่างประเทศ ศุลกากรต่างประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สถานทูตต่างๆ องค์การตำรวจสากล (Interpol) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (Drug Enforcement Administration: DEA) เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าว ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือและดำเนินงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 นายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม นางสาวนิตยา เที่ยงตรงภิญโญ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรในสังกัดฯ ร่วมกับชุดปฏิบัติการ AITF (AIRPORT INTERDICTION TASK FORCE) ประกอบด้วย กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ได้ร่วมกันตรวจสอบผู้โดยสารที่มีความเสี่ยงในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเป็นผู้โดยสารของสายการบินกาตาร์ เดินทางมาจากเมืองโดฮา (DOHA) ประเทศกาตาร์ (QATAR) ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบผู้โดยสารที่เป็นหญิงไทยมีความน่าสงสัย จึงขอสแกนกระเป๋าเพื่อดูความผิดปกติและขอตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 2,300 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในถุงผ้าจำนวน 5 ถุง ซึ่งบรรจุอยู่ภายในกระเป๋าเป้สัมภาระติดตัวผู้โดยสาร (Carry on)
โฆษกกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 252 ประกอบกับมาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด ทั้งนี้ กรมศุลกากรจะดำเนินการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลต่อไป