โครงการอัยการร่วมใจอาสาเพื่อประชาและสังคม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗”
๑. ชื่อหน่วยงาน สำนักงานอัยการสูงสุด
๒. ชื่อโครงการ/กิจกรรม โครงการอัยการร่วมใจอาสาเพื่อประชาและสังคม เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗”
๓. ประเภทโครงการหรือกิจกรรม
การส่งเสริมคุณภาพชีวิต พัฒนาสังคมและจิตใจ การส่งเสริมศาสนาและวัฒนธรรม การส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การส่งเสริมการศึกษา
๔. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ/กิจกรรม
เนื่องในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ หรือ ๓๗๒ พรรษา ในวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง รัฐบาลเห็นสมควรดำเนินการ จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติยศ ทุกประการ โดยมีขอบเขตของงานเฉลิมพระเกียรติฯ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๗ จนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ ในโอกาสนี้รัฐบาลเชิญชวนหน่วยงานพิจารณาเสนอโครงการและกิจกรรมเพื่อเข้าร่วมเป็นโครงการ และกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสดังกล่าว โดยเป็นโครงการหรือ กิจกรรมที่น้อมนำพระราชปณิธาน พระราชดำริ พระบรมราโชวาท หรือพระราชกรณียกิจ เพื่อสร้างความอยู่ดี มีสุขของประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หรือเป็นโครงการที่เป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอด อันเนื่องมาจากพระราชดำริและแนวพระราชดำริต่าง ๆ ในการบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้แก่ประชาชน และพัฒนาประเทศชาติ จัดส่งให้สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ภายในวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๗ เพื่อสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะได้ประมวลและรวบรวมนำเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง โครงการและกิจกรรมร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ พิจารณา
สำนักงานอัยการสูงสุด มีพันธกิจในการอำนวยความยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส พึ่งพิงได้บนพื้นฐานของความเสมอภาค รักษาผลประโยชน์ของรัฐ คุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ เพื่อประโยชน์สาธารณะ และการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน รับรู้ ดูแล แก้ปัญหาในการเป็นที่พึ่งของประชาชนในด้านกฎหมาย และพัฒนาศักยภาพองค์กรให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกบนฐานความเชี่ยวชาญ เพื่อเป็นการแสดงความ จงรักภักดีและเชิดชูพระเกียรติคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็นแบบอย่างของความกตัญญูที่ทรงมี ต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการรักษา สืบสาน ต่อยอดพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระราชกรณียกิจด้วยการน้อมนำศาสตร์พระราชา จากปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นแนวคิดที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร พระราชทานให้กับ ปวงชนชาวไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๐ เพื่อเป็นแนวทางที่จะนำประเทศไทยไปสู่การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน ด้วยการเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ทั้งยังทรงห่วงใยประชาชนในทุก ๆ ด้าน รวมตลอดทั้งด้านกฎหมาย โดยทรงเห็นว่า
บ้านเมืองจะสงบสุขได้เมื่อประชาชนรู้ถึงสิทธิหน้าที่ของตนตามกฎหมาย จึงจำเป็นต้องมีการนำความรู้และการบริการ ทางด้านกฎหมายไปให้ถึงประชาชน โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล พื้นที่ทุรกันดาร พื้นที่ที่ประสบ ภยันตรายปัจจุบันทันด่วน หรือประสบอุทกภัยหรือวาตภัย เป็นต้น
นอกจากนั้น ในโอกาสที่อัยการสูงสุด นำข้าราชการอัยการประจำกอง เข้าเฝ้าทูลละออง พระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ความว่า “งานในหน้าที่ ของท่านต้องอาศัยคุณสมบัติสำคัญประการหนึ่ง คือ วิจารณญาณอันเที่ยงตรงถูกต้อง วิจารณญาณ ดังกล่าวนั้น จะเกิดมีขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนเรามีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว้างขวาง มีประสบการณ์ที่สร้างสมมา อย่างเพียงพอและมีใจเที่ยงตรงเป็นกลาง สามารถคิดพิจารณาสิ่งต่างๆ เรื่องราวต่างๆ ได้ตามเป็นจริง จึงขอให้อัยการทุกคนหมั่นเสริมสร้างวิจารณญาณของตนอยู่เสมอ และปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่าง โดยใช้วิจารณญาณอันรอบคอบ ประกอบด้วยหลักวิชา หลักเหตุผล และหลักธรรม แต่ละคนก็จะสามารถ ปฏิบัติงานในหน้าที่ให้สำเร็จสมบูรณ์ได้ตามที่ตั้งใจมุ่งหมาย”
เนื่องในโอกาสมหามงคลพิเศษที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๖ รอบ ในวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และเพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี จึงได้รวมพลังหน่วยงานของสำนักงานอัยการสูงสุดทั้งส่วนกลาง และต่างจังหวัด ๓๘๗ สำนักงาน จัดโครงการและกิจกรรม เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ โดยใช้ชื่อโครงการว่า “ โครงการอัยการร่วม ใจอาสาเพื่อประชาและสังคม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗” โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
๔.๑ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ๔.๒ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเชิดชูพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็นแบบอย่างของความกตัญญูต่อสมเด็จพระบรมราชชนกในการรักษา สืบสาน ต่อยอดพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ด้วยการน้อมนำศาสตร์พระราชาจากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๔.๒ เพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคีในองค์กรเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
๑. ชื่อหน่วยงาน สำนักงานอัยการสูงสุด
๒. ชื่อโครงการ/กิจกรรม โครงการอัยการร่วมใจอาสาเพื่อประชาและสังคม เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗”
๓. ประเภทโครงการหรือกิจกรรม
การส่งเสริมคุณภาพชีวิต พัฒนาสังคมและจิตใจ การส่งเสริมศาสนาและวัฒนธรรม การส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การส่งเสริมการศึกษา
๔. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ/กิจกรรม
เนื่องในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ หรือ ๓๗๒ พรรษา ในวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง รัฐบาลเห็นสมควรดำเนินการ จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติยศ ทุกประการ โดยมีขอบเขตของงานเฉลิมพระเกียรติฯ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๗ จนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ ในโอกาสนี้รัฐบาลเชิญชวนหน่วยงานพิจารณาเสนอโครงการและกิจกรรมเพื่อเข้าร่วมเป็นโครงการ และกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสดังกล่าว โดยเป็นโครงการหรือ กิจกรรมที่น้อมนำพระราชปณิธาน พระราชดำริ พระบรมราโชวาท หรือพระราชกรณียกิจ เพื่อสร้างความอยู่ดี มีสุขของประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หรือเป็นโครงการที่เป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอด อันเนื่องมาจากพระราชดำริและแนวพระราชดำริต่าง ๆ ในการบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้แก่ประชาชน และพัฒนาประเทศชาติ จัดส่งให้สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ภายในวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๗ เพื่อสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะได้ประมวลและรวบรวมนำเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง โครงการและกิจกรรมร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ พิจารณา
สำนักงานอัยการสูงสุด มีพันธกิจในการอำนวยความยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส พึ่งพิงได้บนพื้นฐานของความเสมอภาค รักษาผลประโยชน์ของรัฐ คุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ เพื่อประโยชน์สาธารณะ และการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน รับรู้ ดูแล แก้ปัญหาในการเป็นที่พึ่งของประชาชนในด้านกฎหมาย และพัฒนาศักยภาพองค์กรให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกบนฐานความเชี่ยวชาญ เพื่อเป็นการแสดงความ จงรักภักดีและเชิดชูพระเกียรติคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็นแบบอย่างของความกตัญญูที่ทรงมี ต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการรักษา สืบสาน ต่อยอดพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระราชกรณียกิจด้วยการน้อมนำศาสตร์พระราชา จากปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นแนวคิดที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร พระราชทานให้กับ ปวงชนชาวไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๐ เพื่อเป็นแนวทางที่จะนำประเทศไทยไปสู่การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน ด้วยการเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ทั้งยังทรงห่วงใยประชาชนในทุก ๆ ด้าน รวมตลอดทั้งด้านกฎหมาย โดยทรงเห็นว่า
บ้านเมืองจะสงบสุขได้เมื่อประชาชนรู้ถึงสิทธิหน้าที่ของตนตามกฎหมาย จึงจำเป็นต้องมีการนำความรู้และการบริการ ทางด้านกฎหมายไปให้ถึงประชาชน โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล พื้นที่ทุรกันดาร พื้นที่ที่ประสบ ภยันตรายปัจจุบันทันด่วน หรือประสบอุทกภัยหรือวาตภัย เป็นต้น
นอกจากนั้น ในโอกาสที่อัยการสูงสุด นำข้าราชการอัยการประจำกอง เข้าเฝ้าทูลละออง พระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ความว่า “งานในหน้าที่ ของท่านต้องอาศัยคุณสมบัติสำคัญประการหนึ่ง คือ วิจารณญาณอันเที่ยงตรงถูกต้อง วิจารณญาณ ดังกล่าวนั้น จะเกิดมีขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนเรามีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว้างขวาง มีประสบการณ์ที่สร้างสมมา อย่างเพียงพอและมีใจเที่ยงตรงเป็นกลาง สามารถคิดพิจารณาสิ่งต่างๆ เรื่องราวต่างๆ ได้ตามเป็นจริง จึงขอให้อัยการทุกคนหมั่นเสริมสร้างวิจารณญาณของตนอยู่เสมอ และปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่าง โดยใช้วิจารณญาณอันรอบคอบ ประกอบด้วยหลักวิชา หลักเหตุผล และหลักธรรม แต่ละคนก็จะสามารถ ปฏิบัติงานในหน้าที่ให้สำเร็จสมบูรณ์ได้ตามที่ตั้งใจมุ่งหมาย”
เนื่องในโอกาสมหามงคลพิเศษที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๖ รอบ ในวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และเพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี จึงได้รวมพลังหน่วยงานของสำนักงานอัยการสูงสุดทั้งส่วนกลาง และต่างจังหวัด ๓๘๗ สำนักงาน จัดโครงการและกิจกรรม เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ โดยใช้ชื่อโครงการว่า “ โครงการอัยการร่วม ใจอาสาเพื่อประชาและสังคม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗” โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
๔.๑ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ๔.๒ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเชิดชูพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็นแบบอย่างของความกตัญญูต่อสมเด็จพระบรมราชชนกในการรักษา สืบสาน ต่อยอดพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ด้วยการน้อมนำศาสตร์พระราชาจากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๔.๒ เพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคีในองค์กรเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
๔.๓ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของสำนักงานอัยการสูงสุด และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม
๕. ระยะเวลาดำเนินโครงการ/กิจกรรม
ตั้งแต่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ถึง ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗
๖.การดำเนินงาน
ให้สำนักงานอธิบดีทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัด สำนักงานอัยการภาค สำนักงานอัยการ จังหวัด สำนักงานอัยการคดีศาลแขวง สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัว สำนักงานอัยการคุ้มครอง สิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดร่วมกันทุกสำนักงานในจังหวัด หรือบูรณาการกับ หน่วยงานภายนอก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนหรือประชาชนทั่วไป ร่วมกันทำกิจกรรมสาธารณกุศล หรือสาธารณประโยชน์เพื่อการส่งเสริมคุณภาพชีวิต พัฒนาสังคมและจิตใจ หรือส่งเสริมศาสนาและวัฒนธรรม ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ หรือส่งเสริมการศึกษา เช่น
การจัดเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายแก่เด็ก เยาวชน และประชาชนในพื้นที่
การบริจาคโลหิต บริจาคสิ่งของแก่ผู้ป่วย
การบริจาคสิ่งของจำเป็นแก่ผู้ด้อยโอกาส เช่น เด็ก สตรี คนชรา ผู้ต้องขัง เด็กและ เยาวชนในโรงเรียน สถานสงเคราะห์ ศูนย์ควบคุมเด็กและเยาวชน เป็นต้น
จัดกิจกรรมจิตอาสาต่าง ๆ เช่น ทำความสะอาดสถานที่ราชการ สถานที่สาธารณะ วัด
การปรับภูมิทัศน์สำนักงานหรือชุมชนใกล้เคียงให้สวยงาม
การปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ ตามสถานที่ต่าง ๆ
การอุปสมบทหรือบรรพชา พระภิกษุ สามเณรหมู่
การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ
กิจกรรมอื่นตามที่เห็นเหมาะสม ตามบริบทของแต่ละพื้นที่
๗. งบประมาณ
จากการมีส่วนร่วมของผู้บริหารและบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุด โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ
๘. พื้นที่ดำเนินโครงการ/กิจกรรม
๔.๑ ส่วนกลาง ๑.) สำนักงานอัยการสูงสุด โดยสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทาง กฎหมายแก่ประชาชน ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด ๒.) สำนักอธิบดีต่าง ๆ ในส่วนกลาง ๘.๒ ต่างจังหวัด ๑.) สำนักงานอัยการภาค สำนักงานอัยการจังหวัด สำนักงานอัยการคดี ศาลแขวง สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัว สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทาง กฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดร่วมกันทุกสำนักงานในจังหวัด ๒.) สำนักอธิบดีที่อยู่ในต่างจังหวัด
๙. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
๙.๑ ข้าราชการฝ่ายอัยการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง ประชาชน ได้ร่วมกันแสดงความ จงรักภักดี และเชิดชูพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นแบบอย่างของความกตัญญู ที่ทรงมี ต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
๙.๒ เพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคีในองค์กรเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
๔๙.๓ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของสำนักงานอัยการสูงสุด และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม
๑๐. ผู้ประสานงานโครงการ
ผู้รับผิดชอบโครงการ
สำนักงานอัยการสูงสุด โดย สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน
และสำนักงานเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด
ป้ายชื่อพร้อมตำแหน่ง
1. นายวรเทพ สกุลพิชัยรัตน์ อัยการศาลสูง จังหวัดสมุทรปราการ
2. นายชิติพัทธ์ คงมาก อัยการจังหวัด สมุทรปราการ
3. นายธรรมรัตน์ ลิ่มกุลพงษ์ อัยการจังหวัด พระประแดง
4. นายสุชาติ วรรณเมืองเก่า อัยการจังหวัดคดี ศาลแขวงสมุทรปราการ
5. นายนพงศ์ ประเสริฐชัย อัยการจังหวัดคดี เยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ
6. นางสาวภัทราภรณ์ พรมนุชาธิป อัยการจังหวัด คุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการ บังคับคดีจังหวัดสมุทรปราการ
7. นายวิชัย โชติปฏิเวชกุล ผู้บัญชาการเรือนจำ กลางจังหวัดสมุทรปราการ
8. นางบุศรินทร์ แสงใหญ่ ผู้อำนวยการโรงเรียน บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สมุทรปราการ
๕. ระยะเวลาดำเนินโครงการ/กิจกรรม
ตั้งแต่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ถึง ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗
๖.การดำเนินงาน
ให้สำนักงานอธิบดีทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัด สำนักงานอัยการภาค สำนักงานอัยการ จังหวัด สำนักงานอัยการคดีศาลแขวง สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัว สำนักงานอัยการคุ้มครอง สิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดร่วมกันทุกสำนักงานในจังหวัด หรือบูรณาการกับ หน่วยงานภายนอก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนหรือประชาชนทั่วไป ร่วมกันทำกิจกรรมสาธารณกุศล หรือสาธารณประโยชน์เพื่อการส่งเสริมคุณภาพชีวิต พัฒนาสังคมและจิตใจ หรือส่งเสริมศาสนาและวัฒนธรรม ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ หรือส่งเสริมการศึกษา เช่น
การจัดเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายแก่เด็ก เยาวชน และประชาชนในพื้นที่
การบริจาคโลหิต บริจาคสิ่งของแก่ผู้ป่วย
การบริจาคสิ่งของจำเป็นแก่ผู้ด้อยโอกาส เช่น เด็ก สตรี คนชรา ผู้ต้องขัง เด็กและ เยาวชนในโรงเรียน สถานสงเคราะห์ ศูนย์ควบคุมเด็กและเยาวชน เป็นต้น
จัดกิจกรรมจิตอาสาต่าง ๆ เช่น ทำความสะอาดสถานที่ราชการ สถานที่สาธารณะ วัด
การปรับภูมิทัศน์สำนักงานหรือชุมชนใกล้เคียงให้สวยงาม
การปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ ตามสถานที่ต่าง ๆ
การอุปสมบทหรือบรรพชา พระภิกษุ สามเณรหมู่
การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ
กิจกรรมอื่นตามที่เห็นเหมาะสม ตามบริบทของแต่ละพื้นที่
๗. งบประมาณ
จากการมีส่วนร่วมของผู้บริหารและบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุด โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ
๘. พื้นที่ดำเนินโครงการ/กิจกรรม
๔.๑ ส่วนกลาง ๑.) สำนักงานอัยการสูงสุด โดยสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทาง กฎหมายแก่ประชาชน ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด ๒.) สำนักอธิบดีต่าง ๆ ในส่วนกลาง ๘.๒ ต่างจังหวัด ๑.) สำนักงานอัยการภาค สำนักงานอัยการจังหวัด สำนักงานอัยการคดี ศาลแขวง สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัว สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทาง กฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดร่วมกันทุกสำนักงานในจังหวัด ๒.) สำนักอธิบดีที่อยู่ในต่างจังหวัด
๙. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
๙.๑ ข้าราชการฝ่ายอัยการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง ประชาชน ได้ร่วมกันแสดงความ จงรักภักดี และเชิดชูพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นแบบอย่างของความกตัญญู ที่ทรงมี ต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
๙.๒ เพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคีในองค์กรเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
๔๙.๓ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของสำนักงานอัยการสูงสุด และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม
๑๐. ผู้ประสานงานโครงการ
ผู้รับผิดชอบโครงการ
สำนักงานอัยการสูงสุด โดย สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน
และสำนักงานเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด
ป้ายชื่อพร้อมตำแหน่ง
1. นายวรเทพ สกุลพิชัยรัตน์ อัยการศาลสูง จังหวัดสมุทรปราการ
2. นายชิติพัทธ์ คงมาก อัยการจังหวัด สมุทรปราการ
3. นายธรรมรัตน์ ลิ่มกุลพงษ์ อัยการจังหวัด พระประแดง
4. นายสุชาติ วรรณเมืองเก่า อัยการจังหวัดคดี ศาลแขวงสมุทรปราการ
5. นายนพงศ์ ประเสริฐชัย อัยการจังหวัดคดี เยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ
6. นางสาวภัทราภรณ์ พรมนุชาธิป อัยการจังหวัด คุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการ บังคับคดีจังหวัดสมุทรปราการ
7. นายวิชัย โชติปฏิเวชกุล ผู้บัญชาการเรือนจำ กลางจังหวัดสมุทรปราการ
8. นางบุศรินทร์ แสงใหญ่ ผู้อำนวยการโรงเรียน บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สมุทรปราการ
